Austria Czech 2015

On ตุลาคม 11, 2015ตุลาคม 14, 2015 By goldfishjoy1 ความเห็น

ทริปนี้เริ่มจาก เมื่อ2014ไปออสเตรีย เอารูปมาอวดแม่ แม่ชอบhallstatt ก็จัดเลย แต่แม่บอกสงสารน้อง ให้น้องไปด้วยได้ไหม สรุปเลยไปกันสามคน เพราะพ่อไปเยอรมันมาแล้ว ควรเฝ้าบ้าน ถถถถถ แม่ว่างั้น

Plan Vienna Hallstatt Salzburg Cesky Krumlov Vienna

ไปถึงเวียนนา บ่ายโมงกว่า ออกจากสนามบินนั่งรถบัสสาย7 ออกตรงประตูที่มีร้าน McDonaldใกล้สุด ก่อนออกไปซื้อซิมการ์ดก่อน แล้วก็ซื้อตั๋ววันคนละใบ ส่วนตั๋วรถบัสเข้สเมืองจะซื้อที่ตู้หรือซื้อกะพี่คนขับเลยก็ได้

ใช้เวลาประมาณ40นาที แวะจอดที่สถานีรถไฟmidก่อน แล้วสุดสายที่wienwestbahnhof

นอนที่wombats the loungeเป็นhostelที่ดีนะ ย่านนี้เดินทางสะดวกมาก รถรางก็มีรถไฟ รถใต้ดิน ครบเครื่อง ร้านอาหาร

เข้ารรเก็บของแล้วออกไปแอ๊วที่Stephanplatz เดินช้อปที่ถGarben Kartner สายหลักอ่ะ ชอบบบบบ

โบสถ์St Stephan

เออ รถไฟฟ้าสายหลักที่ใช้บ่อยคือสายสีส้ม ที่เวียนนาไม่มีระบบตรวจตั๋วไรนะ คือมีแค่สุ่มตรวจแต่ไม่เคยโดน คราวนี้เอาตั๋ววันออกมาใช้

ด้านในของโบสถ์

อีกด้านจะเป็นโบสถ์St Michael โดนร้านค้าบังแต่เราตาดีมองเห็นอิอิ

หันหลังให้โบสถ์แล้วเดินเลี้ยวซ้ายจะเจอเสาPlague column

อยู่บนถนนGraben เดินผ่านเสานี้ไปจะเจออถนนที่ตัดผ่านหน้าคือถนนKartner

เดินเล่นแล้วกลับมากินข้าวเย็นhomemadeที่รร มาม่าจ้าาาาา คุณแม่พกมาอย่างเยอะ แถมข้างรรมีsupermarket ซื้อของกินเพียบบบบบบ

นอนหลับเป็นตายเพราะเหนื่อยจากการนั่งเครื่องบิน

เช้าเช็คเอาท์ เตรียมไปhallstatt

เออ ทริปที่เราพาพ่อแม่ไปเนี่ย วิธีเดินทางเน้นความสบายนะ ราคาบางทีก็มีถูกๆกว่านี้ แต่เน้นให้แม่สบายอ่ะ

อย่างไปHAllstattก็นั่งรถไฟไป ออกจากWestbahnhofเก้าโมงกว่า ไปถึงโน่นก็บ่ายสองได้ รถไฟสายนี้คือวิ่งจากvienna to salzburgถ้าใครไปซาลสบวร์กก็ไม่ต้องลงนะ ถ้าจะไปฮัลสตัทก็ลงที่Atnang puchiem(คนตรวจตั๋วน่ารักมาก แนะนำทุกทีว่าอย่าลืมเปลี่ยนขบวนที่อัตนังปูเค็มนะคร้าบบบ)

มาถึงแล้วเดินไปรอเรือข้ามฟากได้เรือ

คือเรือนี้ดีนะ เวลาออกจะแมตช์กะเวลาที่รถไฟจะมาอยู่ดี หรือถ้ามีเหตุให้เรือไว้วิ่ง เช่น ฝนพายุฟ้าคะนอง รถไฟก็ไม่จอดนะ เลยไปจอดอีกสถานีนึง แล้วเราก็ต้องเหมารถtaxiเอาเอง

พักที่Gashof Simony ชอบบรรยากาศแล้วก็ทำเล แต่ไม่มีwifiในห้องนะ ต้องลงมาเล่นที่lobby โชคดีเราซื้อsim card localเลยเอามาแชร์wifiในห้องนอนได้

เก็บของแล้วเดินไปเหมืองเกลือ ก็เดินไปทางทะเลสาปที่มีคนไปเยอะๆนั่นล่ะ

เดินไปจนถึงทางแยก จะเห็นsupermarket ซอยข้างๆคือทางไปเหมืองเกลือ เดินเข้าไปเลยจ้า

เห็นบ้านน่ารักๆก็อดทำหน้ากะแหร่งแอคท่าไม่ได้ 55555กล้ามากก

มองทางขวาจะเห็นตึกเหมืองเกลือ ตรงที่ซื้อบัตรจะมีให้เลือกว่าจะขึ้นกระเช้าอย่างเดียว หรือไปกลับ หรือขึ้นกระเช้ารวมกับเที่ยวเหมืองเกลือ พวกเราเลือกขึ้นกระเช้าแต่ไม่เข้าเหมืองเกลือค่ะ

ออกมาจากกระเช้าก็เดินไปยังจุดชมวิว นั่งกินลมชมวิวอยู่พักนึงแล้วลงมา

ขากลับเดินผ่านทางเดิมแวะซื้อของกินที่superแล้วไปยังจุดที่ทุกๆคนที่มาHallstattต้องมาถ่ายรูป

เดินผ่านน้ำพุ ผ่านท่าเรือ ลอดอุโมงค์ของโรงแรมheritageแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆจะเจอฝูงชนมากมายยืนถ่ายรูปกันอยู่จ้า

กลับมาทานข้าวที่ห้อง วันรุ่งขึ้นไปsalzburg

วิธีการไปsalzburgมีหลายวิธีและหลายราคา เราเลือกการนั่งรถไฟย้อนไปอัตนังปูเค็มแล้วนั่งรถไฟไปsalzburgอีกทีนะคะ

Netherlands Belgium Paris (2014)

On สิงหาคม 26, 2015ตุลาคม 11, 2015 By goldfishjoyใส่ความเห็น

ทำไมต้องเนเธอร์แลนด์ คือ อยากไปสวนทิวลิปมานานแล้ว และตกปากรับคำ ว่าจะพาน้องไปปารีสให้ได้ คือโดนนางเบี้ยวมารอบหนึ่งแล้วจำได้มะ เลยฟินนาเล่กันในทริปนี้

จองตั๋วแบบลงอัมสเตอดัม กลับทางปารีส

ไปถึงสนามบินSchipol ฝากกระเป๋าไว้ก่อน ไปเที่ยวสวนทิวลิปก่อน

อ้อ ควรซื้อholland passนะ มันจะมีvoucherสีเงินและสีทอง แต่ละอันเอาไปใช้เข้าดูโน่นดูนี่ได้ แล้วแต่เราจะเลือกเข้า หรือใช้เป็นส่วนลดได้ตามรายละเอียดของบัตร

คำเตือน สวนนี้เปิดแค่ปีละสองเดือน โปรดเช็คช่วงเวลาให้ดีเน้อ จัดการซื้อHolland passที่สนามบินกันเสร็จสรรพ นั่งรถบัสมาแปบนึง ในpassจะมีตั๋วใช้เข้าชมสถานที่ต่างๆมากมาย

เราเอาvoucherแลกบัตรเข้าสวนทิวลิปกับรถบัสไปสวนทิวลิป

กลับไปเอากระเป๋าที่สนามบินแล้วเข้าเมือง นั่งรถไฟฟ้าแค่ 20-25นาทีเอง เก็บของ เดินเล่นdamsquare

เช้า ออกไปท่องmuseum แวนโกห์ จะไปบ้านแอนน์ แฟรงค์ แต่คิวยาวเว่อร์ เลยไปAmsterdam Arenaแทน (มันแทนกันได้เหรอแกรรร)

วันรุ่งขึ้นเช็คเอาท์ แต่ฝากกระเป๋าไว้ที่รรก่อน

แพลนวันนี้คือ เช้าไปHaarlem กลับมาอัมสเตอดัมแล้วค่อยนั่งรถไฟไปบรัสเซล

ฮาร์เลมเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่นอกอัมสเตอดัม เมืองเล็กๆน่ารัก ชอบๆๆๆมีโบสถ์ แต่เอารูปไปไว้ไหนแล้ว(วะ)

กลับมาเอากปแล้วไปนั่งรถไฟ(ที่จองมาจากบ้าน) หลับตลอดทางจำได้ว่าผ่านRotterdamบ้านเกิดRVPด้วย

พอใกล้ถึง มีนักท่องเที่ยวเอเชียมาถามเราเรื่องเส้นทางนี่ล่ะ แต่สำเนียงไทยมา นางใส่เสื้อแมนยูด้วย 555 แอบมองชื่อในตั๋วรถไฟ เห็นนามสกุลยาวเป็นกิโล คนไทยแน่นวลลลล

เลยถามเป็นภ.ไทย “พี่คนไทยป่าวคะ” ป๊าดดดด จากนั้นก็ภ.บ้านเกิดกันมันส์

มาถึงบรัสเซล ก็เดินลากกระเป๋าไปรรที่จองไว้ ขุ่นพระ เป็นอพารทเมนต์ที่เจ้าของชื่อ Danny(จากนี้จะขอเรียกว่าเจ๊แดน) เจ๊เป็นเจ้าของร้านเฟอนิเจอร์ฮิปๆที่ออกแบบเอง อพารทเมนต์นางน่าอยู่มากกกกกก แนะนำเลยใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว คือครอบครองอพารทเมนต์สามชั้นกันสองคนพี่น้อง ราวกับบ้านทรายทอง

มาวันแรกก็เจอดีเลย คือหลงทางแบบdefinitely คือ orientateทิศทางผิดหมด จะไปกรองปลาซ (คนเบลเยี่ยมไม่รู้จักนะ หรือกุออกเสียงดีเกิ๊นนน) ได้ใครช่วยชีวิตรู้ไหม คนเวียตนามสองคนที่มาเที่ยว เดินตามๆกันไปนี่ละ

ไปถึงแล้วก็ไม่ใช่จบนะคะ แล้วกรูจะกลับยังไง เออ

ขากลับนั่งแท็กซี่ค่า พี่คนขับคงแบบ ใกล้แค่นี้ทำไมมึงไม่เดินวะ ดวกกกกก

วันรุ่งขึ้นออกเดินทางไปบรู้จ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลก

นั่งรถไฟออกจากอัมสเตอดัมไปไม่นาน ออกมาก็เดินตามฝูงชนไปเรื่อยๆ

เป็นเมืองเล็กๆที่เงียบๆแต่น่ารักอ่ะ ต้องมาๆๆๆ

ขากลับ เออ เคืองลุงนายสถานีมาก บอกสายรถไฟให้นั่งอ้อม ดวกกกกกกกก

กลับมาเดินกรองปลาซอีกรอบ

เพื่อตามหาชายผู้นี้ เด็กชายตัวน้อยที่ยืนฉี่ไม่อายฟ้าดิน จริงๆมีmissionตามหาดญ นั่งยองๆฉี่ด้วยนะ แต่ไม่เจอ5555

ขากลับเจอเรื่องระทึก ใส่ตัวหนาเลย เจอคนมาเดินตามอ่ะ จริงๆควรดีใจใช่ไหม แต่น่ากลัวมาก เดินตามเรากะน้องตั้งแต่supermarket ไปยันร้านขนมปัง ที่น่ากลัวคือเรากลัวมันรู้ว่าพักที่ไหนแล้วตามมาอีกอ่ะ เดชะบุญ มีรถตำรวจวิ่งผ่านมา เลยวิ่งเข้าชาร์จเลย ฟ้องตำรวจว่ามีชายแปลกหน้าเดินตามค่า ณ ตอนนั้นนับถือคุณตำรวจที่ฟังภ.เราออก เออแบบไวยากรณ์พรั่งพรูมากกก ผช.คนนั้น พอเเห็นเราวิ่งไปหาตำรวจก็เดินหันหลังกลับลิ่วๆไปเลย

มาถึงที่พักเรากะน้องรีบปิดหน้าต่างทุกบาน ตอนนั้นเอามีดในครัวขึ้นไปนอนด้วย

เช้ามาก็ไปgrand palace แบบจากความที่กลัว เลยทำให้เที่ยวไม่สนุกเลย

จริงๆวังก็ใกล้บ้านพักมากนะ เดินมาได้เลย

ตรงข้ามวังเป็นสวน นี่สาบานนะว่ากลัว โพสท์ท่าจัดเต็มมากกกก

เสียดายนะ จริงบรัสเซลมีอะไรให้ดูเยอะ สงสัยต้องกลับไปซ่อมอีกรอบปีหน้า

นั่งรถไฟจาก บรัสเซลไปปารีส

ปารีส

Paris

ขี้เกียจเขียนแล้ว ปารีส มันก็เหมือนๆเดิมแหละ

ถึงตอนนี้เรายังรักปารีสที่สุดนะ ไปบ่อยสุด ถึงมันจะไม่เพอรเฟคน่าอยู่เท่าเมืองใหญ่อื่นๆ

ถึงมันจะอันตราย มีคนดำ มีมิจฉาชีพ (ที่ไม่เคยมาทำอะไรคนจนๆแบบเรา) แต่ก็ยังชอบมากที่สุดอยู่ดี

Italy The 2nd (2013)

On สิงหาคม 26, 2015 By goldfishjoyใส่ความเห็น

เป็นทริปที่ ฮาร์ดคอร์นิดๆ ได้ข่าวว่าหนุ่มอิตาลีมือไว เออ จองตั๋วไปเลย

55555

Rome –> Cinque Terre –> Pisa –> Florence –> Venice –> Verona –> Milan

Rome: เที่ยวแค่วันเดียว เพราะรอบที่แล้วเก็บหมดละ กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวฉันใด แต่นันทิดาสามารถเที่ยวในวันเดียวฉันนั้น

Cinque Terre

ไม่มีไรจะพูดนอกจากชั้นเกือบเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ รรที่จองติดต่อไม่ได้ หาใหม่เอาดาบหน้า ไปเดินtrekking 5km โดยมิได้ตั้งใจ ดีไม่โดนตีหัว

จากCT แวะที่Pisaซะหน่อย

Pisa: หอเอน มีแค่นี้ล่ะ ฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีรถไฟ มีคนถามจนท.ว่าไปหอเอนยังไง แกตอบ เดินไป พ่อง!!! ดีที่เราทำการบ้านมา ขึ้นรถเมล์สิจ๊ะ

จับรถไฟต่อไปฟลอเรนซ์

Florence ถือว่าเหนือว่าคาดหมายมาก มีคนบอกว่าดีงู้นงี้ แต่ของจริงคือเริ่ดอ่ะ

เมืองเล็ก เดินไปก็ทั่วแล้วล่ะ

วันรุ่งขึ้นจับรถไฟไปเวนิส เช็คอินแล้วรีบไปเวโรน่า ไปบ้านเกิด

อ้าว ก็โรมิโอ แอนด์ จูเลียต เหตุเกิด ณ เมือง เวโรน่านี้แล

บ้านนาง ระเบียงที่มาแอ๊วกะโรมิโอ

กลับมาก็ล่องเรือในGrand Canalเล่น

เพลินมากจนหลับไปเลย ดีไม่ตกน้ำหัวทิ่ม

วันสุดท้าย ไปมิลาน ขึ้นเครื่องกลับไป เกือบตบชะนีหน้าดูโอโมให้ฝรั่งดูซะละ

Rome Paris (2012) end

On สิงหาคม 26, 2015สิงหาคม 26, 2015 By goldfishjoyใส่ความเห็น

Part II: Paris

ปารีสรอบที่สองในชีวิต #คนหนึ่งคนจำเป็นต้องไปปารีสกี่ครั้ง

Rome Paris (2012)

On สิงหาคม 26, 2015 By goldfishjoyใส่ความเห็น

Part I : Rome

ทริปที่โดนเบี้ยว สุดท้ายคือไปคนเดียว บ้าจริงพี่ชาย

Paris 2011, The First A(d)venger

On สิงหาคม 26, 2015สิงหาคม 26, 2015 By goldfishjoyใส่ความเห็น

ทู้แรก ทริปยุโรปทริปแรก ปารีสครั้งแรก

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/06/E10643217/E10643217.html

Paris Munich Salzburg (2015)

On สิงหาคม 26, 2015ตุลาคม 11, 2015 By goldfishjoyใส่ความเห็น

ออกจากไทยไปถึงCDGเช้า เข้าเมืองด้วยAirfrance shuttle bus line 4 ไปลงMontparnasse
พักที่Hotel Citadine ลักษณะเป็นเหมือนอพารทเมนต์ที่แบ่งเป็นรรด้วย

เก็บของแล้วไปNotre dame พอดีคุณพ่ออายุมากแล้วเกรงว่าจะเดินขึ้นหอคอยไม่ไหว เลยให้ชมแค่ด้านล่าง

ได้เวลาทานข้าวเที่ยง พาไปทานแถวโอเปร่า ใช่แล้ว ต้องเป็นLeon de Bruxelle ถึงสถานี Operaเดินขึ้นมาแล้วไปด้านซ้าย

ได้เวลาเช็คอิน เลยพาคุณพ่อกลับไปอาบน้ำอาบท่าที่รร เพราะหมักมาตั้งแต่ออกจากกทม.
บ่ายๆเลยไปSacre Couer

วันรุ่งขึ้น ฟ้าครึ้มเลยค่ะ แพลนว่าจะขึ้นหอไอเฟลเป็นอันพับไป
แง่ววว ฝนนี่เป็นอุปสรรคกับทริปเราจริงๆ พ่อเริ่มจามแล้วจ้า

บ่ายขึ้นรถไฟไปMunichค่ะ จองล่วงหน้าได้ราคาถูกมากๆ ไปขึ้นที่Gare L’est ออกจากปารีสบ่ายสามกว่าๆไปถึงมิวนิคสามทุ่มได้ค่ะ ตอนเราไปมืดช้า โชคดีไป
พักที่4You hostelทำเลดีมากค่ะ ใกล้สถานีรถไฟ Munich ป้ายรถราง นอนหลับเป็นตาย
เช้าไปซาลบวร์ก ซื้อBayern ticket ไปถึงสถานีSalzburgใช้ตั๋วที่นั่น นั่งรถเมล์ไป

แวะ มาเรียนแพลตซ์ก่อน

มาต่อๆๆ

นั่งรถไฟจากมิวนิคไปซาลบวร์ก ใช้Bayern ticketได้นะ ออกแนวตั๋วกลุ่มยิ่งคนเยอะยิ่งคุ้มแต่ต้องใช้ตอน9โมงเป็นต้นไป นั่งชั่วโมงกว่าๆก็ถึงซาลบวร์กละ

ซื้อsalzburg card 24hr จะว่าคุ้มก็คุ้มนะ คือใช้เข้าที่เที่ยวได้หลายที่ ขึ้นกระเช้าไปดูป้อมฟรี ขึ้นรถเมล์ในเมืองฟรีด้วย หาซื้อได้ในร้านค้าในสถานีนั่นล่ะ

ออกจากสถานีรถไฟก็ไปป้ายรถเมล์ จะมีหลายสายมาก เรานั่งสาย2 ผ่านมิราเบลไป พอข้ามแม่น้ำค่อยลง พอลงก็เริ่มหิว จัดการเอามื้อเที่ยงที่ห่อมาออกมากินที่ริมแม่น้ำนั่นแหละ

พอเสร็จก็เริ่มต้นเที่ยวจากบ้านโมสาร์ทก่อน ใช้บัตรได้ เดินดูที่ๆนางเกิด มีห้องน้ำให้เข้าด้วย ชอบกงนี้

ถนนหน้าบ้านโมสาร์ทมีร้านรวงมากมายเดินชมไปเรื่อยๆจนไปถึง ทางขึ้นกระเช้า

ถ้ามีsalzburg cardก็ใช้ได้เลย

วิวบนป้อม ออกแนวยุคกลางอ่ะ เหมือนข้างบนคือเมืองๆนึง อยู่ได้เลยไม่ต้องลงมาอีกแล้ว

พอลงมาก็เดินมาที่Mozartplatzเพื่อนั่งรถเมล์กลับไปสถานีรถไฟ

ใช้bayern ticketเหมือนเดิม คุ้มมากกลับมาถึงมิวนิคยังไม่มืดเลยเข้าไปเดินในเมือง

กลับมาช้อปในเมืองอีกนิดหน่อย

ขอเล่าประสบการณ์ซื้อยาเมืองนอก คือพ่อเป็นasthmaแบบexacerabteแบบนานๆครั้ง ปรากฏมาเที่ยวอากาศหนาวนางเป็นหวัด แล้วเหมือนจะหอบจ้า ดีที่เอายาติดมา แต่ลืมเอายาขยายหลอดลมมาเผื่อ ทั้งยากินยาพ่นinhaler ไปซื้อที่ร้านขายยาเค้าก็ไม่ขายเพราะต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์(ขนาดแพทย์ไปซื้อเองก็ไม่ขาย เศร้าใจ) เข็ดเลย รอบหน้าจัดแบบเต็ม แต่ขำตรงเราจะซื้อCPMลดน้ำมูก แต่ไม่มีแล้วจ้า เภสัชมาถามเราว่าCPMคืออะไร เราบอกfirst generation antihistamine นางกดคอมดูบอกไม่มีขาย แป่วว เลยเอาloratadineมาแทน อันนี้นางหยิบมาอย่างไว

วันรุ่งขึ้นไปresidnez museum